9 พระราชกรณียกิจ‘ด้านพลังงานทดแทน’ พลังแห่งสายพระเนตรของ ‘พระบิดาแห่งการพัฒนาพลังงานไทย’
กระทรวงพลังงาน ขอรวบรวม 9 พระราชกรณียกิจ ‘ด้านพลังงานทดแทน’ ที่โดดเด่นของในหลวง รัชกาลที่ 9
มาให้ชาวไทยทุกคนได้ศึกษา และเห็นถึงพระอัจฉริยภาพของพระองค์ ซึ่งทั้งหมดล้วนก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาพลังงานของประเทศอย่างแท้จริง
1. พลังงานน้ำ : การพัฒนาด้านพลังงานน้ำในไทยเติบโตอย่างมั่นคง สร้างประโยชน์ให้ประชาชน โดยพระองค์จะทรงเน้นการก่อสร้างเขื่อน และโรงไฟฟ้าขนาดเล็กสำหรับเก็บกักน้ำ เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าไว้ใช้ในชุมชนใกล้เคียง เสริมการทำงานของเขื่อนขนาดใหญ่ที่จัดทำโดยภาครัฐ ซึ่งจะทำให้แต่ละชุมชนใช้ทรัพยากรได้เกิดประโยชน์สูงสุด และสามารถพึ่งพาตนเองได้ ดังที่จะได้เห็นว่า มีโครงการไฟฟ้าพลังงานน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นโรงไฟฟ้าพลังน้ำบ้านสันติ ยะลา, โรงไฟฟ้าพลังน้ำบ้านยาง เชียงใหม่, โรงไฟฟ้าพลังน้ำบ้านขุนกลาง เชียงใหม่, โรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล เชียงใหม่, เขื่อนพรมธารา ชัยภูมิ, โรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนห้วยกุ่ม ชัยภูมิ, โรงฟ้าพลังน้ำคลองช่องกล่ำ สระแก้ว, โรงไฟฟ้าพลังน้ำไอกะเปาะ นราธิวาส และโรงไฟฟ้าพลังน้ำทุ่งเพล จันทบุรี
2. ดีโซฮอล์ : เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงที่ได้จากการผสมน้ำมันดีเซลกับแอลกอฮอล์ เพื่อนำไปใช้แทนน้ำมันของเครื่องยนต์ดีเซล ซึ่งเป็นอีกหนึ่งการพัฒนาเชื้อเพลิงชีวภาพของในหลวง รัชกาลที่ 9 โดยโครงการส่วนพระองค์ส่วนจิตลดา ได้เริ่มวิจัยน้ำมัน ดีโซฮอล์ขึ้นในปี พ.ศ. 2541 และพบว่า สามารถนำไปเป็นเชื้อเพลิงสำหรับรถยนต์ดีเซลได้ดีพอสมควร พร้อมทั้งยังช่วยลดปัญหาควันดำได้กว่า 50% อีกด้วย
3.แก๊สชีวภาพมูลสัตว์ : เมื่อปี พ.ศ. 2522 ทรงมีพระราชดำริทดลองผลิตแก๊สชีวภาพจากมูลโคนม ภายในโครงการสวนจิตรลดา โดยนำเศษวัสดุเหลือทิ้งจากการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรและมูลสัตว์มาหมักในบ่อที่มีสภาพไร้อากาศ จนเกิดเป็นแก๊สชีวภาพ ที่มีคุณสมบัติจุดติดไฟและให้ความร้อนได้ มีน้ำหนักเบากว่าอากาศ อีกทั้งยังไม่มีกลิ่น โดยแก๊สชีวภาพที่ผลิตได้นั้น สามารถนำกลับมาเป็นเชื้อเพลิงให้ความร้อนแก่ระบบการผลิตโรงงานแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร ภายในโครงการสวนจิตรลดา นับว่าอีกหนึ่งโครงการที่ประสบความสำเร็จในการสร้างประโยชน์จากวัสดุเหลือใช้มาแปรรูปเป็นพลังงานทดแทนได้อย่างยั่งยืน
4. เชื้อเพลิงชีวภาพ (แก๊สโซฮอล์): พระราชดำริเกี่ยวกับเชื้อเพลิงชีวภาพ ที่พระองค์ทรงรับสั่งมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2504 แล้วว่า ในอนาคตน้ำมันจะขาดแคลนและมีราคาแพง จึงให้ทดลองผลิตแอลกอฮอล์เป็นเชื้อเพลิง ทำเป็นน้ำมันแก๊สโซฮอล์ ในสวนจิตรลดา โดยเริ่มตั้งแต่การทดลองปลูกอ้อยหลายพันธุ์ เพื่อคัดเลือกพันธุ์ที่ดีที่สุดนำมาทำแอลกอฮอล์ และใช้ในการผลิต "เอทานอล" ผสมกับน้ำมันเบนซิน จนกลายเป็นเชื้อเพลิง "แก๊สโซฮอล์" ได้สำเร็จ จนกระทั้งในปี พ.ศ. 2544 จึงเริ่มนำแก๊สโซฮอล์ ออกมาจำหน่ายเชิงพาณิชย์ โดยบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ณ สถานีบริการน้ำมัน ปตท. บริเวณสำนักงานใหญ่ ถนนวิภาวดีรังสิต และในปีเดียวกัน บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ก็เริ่มทดลองจำหน่ายน้ำมันแก๊สโซฮอล์เป็นครั้งแรกเช่นกัน
5. ผลิตไฟฟ้าจากขยะ : พระองค์ทรงได้พระราชทานงบประมาณจากมูลนิธิชัยพัฒนา จำนวน 1 ล้านบาท ให้แก่คณะทำงานของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ทำการศึกษาทดลองเกี่ยวกับพลังงานขยะ จนในปี พ.ศ. 2552 จึงสามารถนำมาผลิตไฟฟ้าได้สำเร็จ จำนวน 480,080 หน่วย ด้วยการนำขยะมาทับถมกัน แล้วใช้ท่อฝังเข้าไปในกองขยะ ดึงแก๊สมีเทนออกมาผลิตเป็นกระแสไฟฟ้า นับเป็นต้นแบบของการผลิตไฟฟ้าจากขยะ จนสามารถต่อยอดพัฒนาระบบให้มีประสิทธิภาพดีขึ้นอย่างในปัจจุบัน
6. โครงการพลังงานแสงอาทิตย์ : ภายในโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา มีการนำพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้หลากหลายรูปแบบ พร้อมทั้งยังเป็นตัวอย่างและแหล่งความรู้แก่ประชาชนที่สนใจนำพลังงานแสงอาทิตย์ไปใช้ประโยชน์ภายในครัวเรือนหรือประกอบธุรกิจของตนเองอีกด้วยดังเช่น "โครงการบ้านพลังงานแสงอาทิตย์" ที่มีเป้าหมายเพื่อ ปูพื้นฐานการอนุรักษ์พลังงานและใช้พลังงานทดแทน โดยการใช้พลังงานความร้อนจากแสงอาทิตย์ซึ่งมีอยู่ทั่วไป มาใช้ประโยชน์ ด้วยการติดตั้งระบบเซลล์แสงอาทิตย์ และ "โครงการเครื่องอบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์" ที่มีลักษณะเป็นเครื่องอบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์แบบอุโมงค์ลมร้อน โดยมีแผงรับความร้อนจากแสงอาทิตย์และพัดลมเป็นตัวเป่าลมร้อนที่เกิดขึ้น สามารถนำไปใช้อบผลิตผลทางการเกษตรต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น เมล็ดธัญพืช เมล็ดถั่ว ผัก ผลไม้ พืชสมุนไพร ตลอดจนเป็นการประหยัดพลังงานไฟฟ้าในการอบแห้งผลิตภัณฑ์อบแห้งของโครงการส่วนพระองค์ฯ ทั้งการทำกล้วยตาก และผลไม้อบแห้งอื่น ๆ
7. ไบโอดีเซล : จากโครงการพัฒนาไบโอดีเซล เมื่อปี พ.ศ. 2526 ที่ทรงมีพระราชดำริให้มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ สร้างโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มขนาดเล็กที่สหกรณ์นิคมอ่าวลึก จ.กระบี่ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ขนาดเล็ก กำลังผลิต 110 ลิตร ที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.นราธิวาส เพื่อทำการทดลองผลิตน้ำมันไบโอดีเซล จนกระทั่งประสบความสำเร็จในปี พ.ศ. 2543 โดยโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา ได้เริ่มนำไบโอดีเซล มาใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับรถยนต์ดีเซล และพบว่าสามารถใช้เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องยนต์ดีเซล โดยไม่ต้องผสมกับน้ำมันเชื้อเพลิงอื่น ๆ และปัจจุบันในประเทศไทย ได้มีการนำไบโอดีเซล มาใช้ในเชิงพาณิชย์กันอย่างแพร่หลาย ซึ่งนอกจากจะเป็นการช่วยลดการนำเข้าน้ำมันดิบจากต่างประเทศแล้ว ยังช่วยให้เกษตรกรชาวไทยมีรายได้ที่มั่นคงจากการปลูกพืชพลังงานอีกทางหนึ่ง
8. เชื้อเพลิงอัดแท่งโดยใช้พลังงานความร้อน : พระองค์ได้แสดงให้ประชาชนชาวไทยเห็นว่า "แกลบ" นั้นมีประโยชน์มากกว่าที่คิด โดยเมื่อปี พ.ศ. 2518 ทรงมีพระราชดำรัสให้นำแกลบที่ได้จากโรงสีข้าวของสวนจิตรลดา ที่เหลือเป็นจำนวนมากมาทำเป็นเชื้อเพลิงอัดแท่ง สะท้อนให้เห็นพระอัจฉริยภาพของพระองค์ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังได้ทดลองนำผักตบชวาที่เป็นวัชพืชตามแหล่งน้ำมาผสมแกลบทำเป็นเชื้อเพลิงแท่ง และทำการทดลองพัฒนาการผลิตอย่างต่อเนื่อง จนสามารถนำมาเป็นเชื้อเพลิงได้เหมือนถ่านไม้ และทดแทนเชื้อเพลิงชนิดอื่น ๆ ได้
9. พลังงานลม : ทรงมีพระราชดำริให้พัฒนาการใช้พลังงานลมในโครงการสวนจิตรลดา มานานกว่า 20 ปีแล้ว โดยเริ่มต้นเป็นการใช้เพื่อวิดน้ำสำหรับถ่ายเทน้ำของบ่อเลี้ยงปลานิล รวมถึงการใช้พลังงานลมในการสูบน้ำขึ้นไปบนภูเขา เพื่อให้ดินมีความชุ่มชื้น สร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะแก่การเจริญเติบโตของต้นไม้ และได้มีโครงการตามแนวพระราชดำริ เกี่ยวกับพลังงานลม ออกมาอีกหลายโครงการ ได้แก่ กังหันลมบริเวณโครงการสระเก็บน้ำพระราม 9, กังหันลมผลิตไฟฟ้า ณ โครงการชั่งหัวมัน เป็นต้น
พระราชกรณียกิจด้านพลังงาน และด้วยพระอัจฉริยภาพของในหลวง รัชกาลที่ 9 ได้เป็นที่ประจักษ์แก่พสกนิกรชาวไทยมาตลอด แม้แต่ด้านพลังงานที่ดูเป็นเรื่องไกลตัว แต่พระองค์ได้ทรงศึกษาค้นคว้าความรู้อย่างต่อเนื่อง จนสามารถนำมาพัฒนาคุณภาพชีวิต ความเป็นอยู่ของพสกนิกรชาวไทยให้ดีขึ้นได้อย่างทุกวันนี้ สมดังพระราชสมัญญา "พระบิดาแห่งการพัฒนาพลังงานไทย" อย่างแท้จริง
ที่มา: facebook กระทรวงพลังงาน
3 ทริคง่าย ๆ เลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศอย่างไรให้เหมาะสมและประหยัดไฟ
การประชุมคณะทำงานบูรณาการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ด้านพลังงานเชิงพื้นที่ ปีงบประมาณ 2565 และชี้แจงหลักเกณฑ์ เงื่อนไขแนวทางการจัดทำข้อเสนอโครงการ