สายเชฟ เข้าครัวแบบไหน ให้ประหยัดไฟได้เสมอ
เกร็ดความรู้พลังงาน
23 มีนาคม 2565
18
0
0

สายเชฟ เข้าครัวแบบไหน ให้ประหยัดไฟได้เสมอ

ช่วง Work from Home หลายบ้านก็จะมีเวลาในทำอาหารทานเองมากขึ้น เพื่อความสะอาด ปลอดภัย ก็มักจะเลือกทำอาหารทานเองมากกว่าซื้อเข้ามาจากข้างนอก และเมื่อความถี่ในการเข้าครัวบ่อยขึ้น ทำให้ค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น เตาปิ้งย่างไฟฟ้า เครื่องปิ้งขนมปัง หรือแม้แต่หม้อหุงข้าว ซึ่งอย่างน้อยที่สุดในหนึ่งวัน ก็ต้องหุงข้าวไว้สำหรับทานในทุกมื้อแน่นอน

วันนี้ กระทรวงพลังงาน มีเคล็ดไม่ลับมาให้กับสายเชฟทั้งหลายได้นำไปใช้กัน เผื่อว่าจะเป็นการช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าจากการทำครัวได้อีกทางครับ มีอะไรบ้าง มาดูกันครับ

- หม้อหุงข้าว ควรใช้ขนาดให้พอเหมาะกับจำนวนสมาชิก และหุงข้าวให้พอดีกับจำนวนผู้รับประทาน ขณะที่หุงข้าวให้ใส่น้ำปริมาณพอควร และปิดฝาให้สนิท เมื่อข้าวสุกแล้วให้ถอดปลั๊กทันที ไม่เสียบทิ้งไว้ ก็จะเป็นการช่วยประหยัดพลังงานอีกทางครับ นอกจากนี้ อย่าลืมหมั่นตรวจบริเวณแท่นความร้อนในหม้อ อย่าให้เม็ดข้าวเกาะติด จะทำให้ข้าวสุกช้าและเปลืองไฟ

- เตาปิ้งย่างไฟฟ้า ควรเตรียมอาหาร ส่วนผสมต่างๆ ให้พร้อมก่อนเปิดเตา สำหรับอาหารแช่แข็ง ควรทำให้หายแข็งก่อนก็จะช่วยประหยัดเวลาในการทำอาหาร และการใช้เตามากขึ้น โดยที่ไม่ต้องเสียบปลั๊กแช่ไว้นาน ๆ, อย่าเปิด-ปิด เตาบ่อย ๆ และขณะใช้งานควรวางบนพื้นที่ทนไฟหรือไม่ติดไฟ และก่อนประกอบอาหารเสร็จควรปิดสวิตช์เตาไฟฟ้าเพราะความร้อนที่สะสมอยู่มีเพียงพอ เมื่อใช้เสร็จแล้วให้ถอดปลั๊กออกทันที

- เครื่องปิ้งขนมปัง ควรเลือกเครื่องปิ้งขนมปังให้เหมาะกับขนาดของสมาชิกในบ้าน เช่น แบบ 2 ช่อง อาจจะเหมาะกับคนที่อยู่คนเดียวหรือ 2 คน หากเป็นครอบครัวใหญ่ อาจจะเลือกแบบ 4 ช่อง, ก่อนใช้งานควรตรวจสอบว่าปลั๊กเสียบแน่นสนิทแล้วหรือยัง และควรตั้งระดับความร้อนให้พอดีกับความต้องการ อย่างบางคนชอบขนมปังแบบกรอบๆ เกรียมหน่อยๆ ให้ปรับความร้อนให้สูงขึ้น ก็จะทำให้ไม่ต้องกดปิ้งหลายๆ รอบครับ ขณะใช้งานควรวางบนพื้นที่ทนไฟหรือไม่ติดไฟ และถอดปลั๊กทันทีเมื่อใช้งานเสร็จแล้ว และอย่าลืมติดตั้งสายดินและหมั่นใช้ไขควงลองไฟทดสอบไฟรั่วอยู่เสมอเพื่อความปลอดภัยด้วยนะครับ
ข้อแนะนำเหล่านี้ ถือเป็นทริกเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งหากสมาชิกทุกคนในบ้านร่วมกันตระหนักถึงการใช้พลังงานอย่างประหยัด ก็จะช่วยให้ปริมาณการใช้ไฟในบ้านลดลงได้มากขึ้นเลยทีเดียวนะครับ

ที่มา: Facebook กระทรวงพลังงาน

::: สื่อที่เกี่ยวข้อง :::
R
ELATED NEWS
ข่าวที่น่าสนใจ