“โซลาร์เซลล์" หนึ่งในพลังงานทางเลือกที่ได้รับการพูดถึงมากขึ้น และหลายคนก็ได้เริ่มใช้งานกันไปบ้างแล้ว รวมถึงกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ เพราะช่วยประหยัดต้นทุนค่าไฟ หลังจากที่ในปัจจุบันค่าไฟได้มีการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น วันนี้กระทรวงพลังงานขอนำเสนอเกี่ยวกับ ระบบแผงโซลาร์เซลล์ ว่าแต่ระบบนั้นมีข้อแตกต่างกันอย่างไร เพื่อเป็นความรู้ประกอบการตัดสินใจให้กับผู้ที่ต้องการติดตั้ง เพราะในอนาคตเราอาจจำเป็นต้องใช้โซลาร์เซลล์อย่างจริงจัง

                     โซลาร์เซลล์ (Solar Cell) คือพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตมาจากแสงอาทิตย์ ผ่านการติดตั้งอุปกรณ์ที่เราเรียกว่า “แผงโซลาร์เซลล์" ซึ่งทำหน้าที่เปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์มาเป็นพลังงานไฟฟ้าโดยระบบแผงโซลาร์เซลล์ แบ่งออกเป็น 3 ระบบ ดังนี้

ระบบออนกริด (On-Grid)
เป็นระบบที่เชื่อมต่อกับการไฟฟ้า และไฟฟ้าที่ผลิตได้จากแผงโซลาร์ เหมาะกับบ้านที่ใช้ไฟฟ้าในช่วงเวลากลางวัน ไม่มีแบตเตอรี่ สามารถผลิตไฟฟ้าแล้วใช้ได้เลย เป็นที่นิยมเพราะสามารถขายคืนให้กับการไฟฟ้าได้ ทั้งนี้ต้องมีการขออนุญาตการไฟฟ้าก่อนติดตั้งด้วย

ระบบออฟกริด (Off-Grid)
การทำงานเหมือนกันกับระบบออนกริด แตกต่างคือไม่เชื่อมต่อกับการไฟฟ้า จึงไม่ต้องขออนุญาตติดตั้งจากการไฟฟ้า เหมาะกับสถานที่ที่ไฟฟ้าเข้าไม่ถึง และพื้นที่ห่างไกล

ระบบไฮบริด (Hybrid)
มีข้อแตกต่างจากทั้งสองระบบคือ มีแบตเตอรี่มาสำรองพลังงาน ในกรณีที่แผงโซลาร์ผลิตกระแสไฟฟ้ามากเกินกว่าการใช้งาน และสามารถดึงมาใช้ในช่วงเวลากลางคืน หรือสามารถดึงเอาไฟฟ้าในแบตเตอรี่มาใช้งานได้ในช่วงเวลาที่ไฟฟ้าตก หรือดับได้ ซึ่งระบบนี้ไม่สามารถขายไฟฟ้าให้กับภาครัฐได้
                ดวงอาทิตย์ เป็นแหล่งพลังงานที่ไม่มีวันดับและมีปริมาณไม่จำกัด ซึ่งแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดจากพลังงานชนิดอื่น ๆ ที่มีอยู่อย่างจำกัด และใช้แล้วหมดไปไม่ว่าจะเป็น ก๊าซธรรมชาติ น้ำมัน ถ่านหิน เป็นต้น จึงทำให้โซลาร์เซลล์ ถูกเลือกเป็นอันดับต้น ๆ ในด้านพลังงานทางเลือกที่ยั่งยืน

ที่มา : EV Power Energy https://shorturl.asia/m36GX
facebook : กระทรวงพลังงาน